แอร์ไม่เย็นเกิดจาก อะไร?

แอร์ไม่เย็นเป็นปัญหาที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะในฤดูร้อนที่อากาศร้อนจัด บทความนี้จะช่วยคุณตรวจสอบแอร์ไม่เย็นเกิดจากสาเหตุและวิธีแก้ไขเบื้องต้นด้วยตัวเอง ก่อนเรียกช่างแอร์มาซ่อม!

แก้ไขแอร์ไม่เย็น

 

สาเหตุหลักที่ แอร์ไม่เย็น และวิธีแก้ไข

1. ฟิลเตอร์แอร์สกปรก

  • อาการ: ลมออกน้อยแต่ไม่เย็น

  • วิธีแก้:

    • ถอดฟิลเตอร์ออกล้างด้วยน้ำสบู่

    • ล้างฟิลเตอร์ด้วยแปรงขนนุ่มหรือเครื่องฉีดน้ำเเรงดันสูงเพื่อประหยัดเวลา

    • ควรล้างฟิลเตอร์ทุก 1-2 เดือน

2. คอยล์เย็นสกปรก

  • อาการ: มีน้ำแข็งเกาะที่คอยล์

  • วิธีแก้:

    • ใช้สเปรย์ล้างแอร์ฉีดทำความสะอาด

    • ใช้แปรงขนนุ่มขัดตามแนวครีบหรือเครื่องฉีดน้ำเเรงดันสูงเพื่อประหยัดเวลา

    • ควรล้างคอยล์ปีละ 2 ครั้ง

3. แก๊สแอร์รั่ว

  • อาการ: แอร์เดินแต่ไม่เย็นเลย

  • วิธีเช็ก:

    • ตรวจดูท่อทองแดงว่ามีน้ำมันรั่วหรือไม่

    • ฟังเสียงฟู่ๆ จากแอร์

  • วิธีแก้: ต้องเรียกช่างเติมแก๊ส

4. คอมเพรสเซอร์ไม่ทำงาน

  • อาการ: พัดลมทำงานแต่ไม่มีลมเย็นออกมา

  • วิธีเช็ก:

    • ฟังเสียงคอมเพรสเซอร์ว่าทำงานหรือไม่

    • ตรวจสอบคาปาซิเตอร์

5. ท่อน้ำทิ้งอุดตัน

  • อาการ: มีน้ำหยดในห้อง

  • วิธีแก้:

    • ใช้ลวดเสียบกระดาษเช็ดท่อ

    • ฉีดน้ำแรงดันต่ำล้างท่อ

6. ตั้งอุณหภูมิผิด

  • อาการ: แอร์ทำงานแต่ไม่เย็นพอ

  • วิธีแก้:

    • ตั้งอุณหภูมิที่ 25-26°C

    • เปิดโหมด Cool ไม่ใช่ Dry

7. พัดลมคอยล์ร้อนขัดข้อง

  • อาการ: แอร์เย็นบ้างไม่เย็นบ้าง

  • วิธีเช็ก:

    • ตรวจสอบพัดลมด้านนอกว่าหมุนหรือไม่

    • ฟังเสียงผิดปกติจากพัดลม

8. ระบบไฟฟ้าผิดปกติ

  • อาการ: แอร์ไม่ทำงานเลย

  • วิธีเช็ก:

    • ตรวจสอบเบรกเกอร์

    • ดูว่าปลั๊กหลุดหรือไม่

9. แอร์มีขนาดไม่เหมาะกับห้อง

  • อาการ: แอร์ทำงานตลอดแต่ไม่เย็น

  • วิธีแก้:

    • ตรวจสอบขนาด BTU ที่เหมาะสม

    • พิจารณาเปลี่ยนแอร์หากห้องใหญ่เกินไป

10. อายุการใช้งานนานเกินไป

  • อาการ: แอร์มีอายุมากกว่า 10 ปี

  • วิธีแก้:

    • พิจารณาเปลี่ยนแอร์ใหม่

    • เลือกแอร์อินเวอร์เตอร์เพื่อประหยัดไฟ

วิธีตรวจสอบเบื้องต้นเมื่อแอร์ไม่เย็น

  1. ตรวจสอบฟิลเตอร์ – ล้างทำความสะอาดจากเครื่องฉีดน้ำเเรงดันสูงเพื่อประหยัดเวลา

  2. ฟังเสียงแอร์ – ตรวจสอบคอมเพรสเซอร์และพัดลม

  3. ดูน้ำแข็งเกาะ – สัญญาณแก๊สรั่วหรือคอยล์สกปรก

  4. ตรวจสอบท่อน้ำทิ้ง – ดูว่าอุดตันหรือไม่

  5. วัดอุณหภูมิลม – ควรต่ำกว่าอุณหภูมิห้อง 8-10°C

เมื่อไหร่ควรเรียกช่างแอร์?

  • แอร์ไม่ทำงานเลย

  • มีเสียงดังผิดปกติ

  • มีน้ำแข็งเกาะที่คอยล์เย็น

  • มีกลิ่นเหม็นหรือควัน

  • แก๊สแอร์รั่ว

วิธีป้องกันแอร์ไม่เย็น

✅ ล้างฟิลเตอร์ทุก 1-2 เดือน
✅ ทำความสะอาดคอยล์ปีละ 2 ครั้ง
✅ ตรวจสอบท่อน้ำทิ้งเป็นประจำ
✅ ตั้งอุณหภูมิที่เหมาะสม (25-26°C)
✅ ตรวจเช็กระบบไฟฟ้าอย่างสม่ำเสมอ

แนะนำอุปกรณ์ล้างแอร์

เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง หรือ ปั๊มล้างแอร์  ที่ภาษาทั่วไปเรียกกันนั่นเอง  เลือกเครื่องที่มีขนาดแรงดันน้ำกำลังพอเหมาะอยู่ที่ 70-120 บาร์  โฟลเรทน้ำไม่ควรต่ำกว่า 6.5 ลิตร ต่อนาที  จึงจะมีน้ำที่ทำความสะอาดได้อย่างรวดเร็ว ไม่เปลืองเวลาในการทำงานมากนัก จบงานได้เร็วกว่า  ตัวเครื่องควรดูดน้ำเองได้จากถังและต่อจากก๊อกได้ มีระบบออโต้สต๊อบ  หยุดการทำงานเมื่อปล่อยไกปืน หรือ หัวฉีดล้างแอร์ สำคัญที่สุด เครื่องฉีดน้ำควรเป็นมอเตอร์ขดลวดที่เป็นทองแดงแท้ เพราะจะทำให้ใช้งานได้ต่อเนื่อง  และถ้าอยากได้แบบเสียงเบาๆ ก็ควรเลือกชนิดเป็นมอเตอร์แบบเหนี่ยวนำ (INDUCTION MOTOR)

เลือกปั๊มล้างแอร์อย่างไรให้เหมาะกับการใช้งาน กดลิงค์นี้มีวิธีแนะนำ

สำหรับคนที่ไม่ถนัดใช้ปืนฉีดน้ำแรงดันสูงในการล้างแอร์  ก็แนะนำให้ใช้ หัวฉีดล้างแอร์ โดยเฉพาะ ซึ่งทำจากทองเหลืองมีมากมายหลายรูปแปป จะทำให้การทำงานในการล้างแอร์นั้น สะดวกมากยิ่งขึ้นไปอีก เช่นอย่างในที่แคบ นั้นก็สามารถสอดหัวฉีดเข้าไปล้างทำความสะอาดด้านในได้อย่างหมดจด ไม่เหลือคราบสกปรกไว้ในแอร์อีกเลย

แอร์ไม่เย็นเกิดจาก
หัวฉีดสวิง หมุนได้ 180 องศา หัวเดียวจบ

ผ้าใบล้างแอร์มีแบบที่เป็นผ้าร่ม แบบซิลเวอร์  และแบบเคลือบยางพารา หรือแบบพลาสติก ซึ่งจะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันไป เช่น แบบผ้าร่มธรรมดาก็จะน้ำหนักเบา  ล้างเสร็จแล้วผึ่งแห้งได้ไว เก็บแล้วไม่เหม็นไม่มีกลิ่นอับ  แบบเคลือบยางพาราก็จะมีคุณสมบัติ ทนต่อกรดของน้ำยาล้างแอร์ ก็จะไม่ขาดง่าย ใช้งานได้นาน แต่ถ้าใช้ผ้าใบล้างแอร์ แบบผ้าหนาสำหรับทำเต้นท์ ก็จะทนทานมาก ใช้งานได้ยาวนาน ข้อเสียคือ ผ้าใบจะค่อนข้างมีน้ำหนักมากทำให้ยากต่อการทำงาน

เทคนิคพิเศษเพิ่มเติม  ควรมีผ้าใบ อย่างน้อย 2-3 ผืนที่ไม่ใช่แบบกรวยสำหรับล้างแอร์​ไว้คลุมสิ่งของในบ้านลูกค้า หรือ ปูพื้น พื้นที่ทำงาน ก็จะทำให้ไม่สกปรกน้ำกระเด็นไปโดน ดูมืออาชีพ ละเอียดรอบคอบ ทำให้ลูกค้าประทับใจเพิ่มมากขึ้นอีกด้วยนะครับ

เลือกผ้าใบล้างแอร์ ต้องเลือก ผ้าใบเงินล้าน เท่านั้น เพราะมีผ้าใบที่ทันสมัยที่สุด เคลือบยางพาราป้องกันเคมีจากน้ำยาล้างแอร์ และ น้ำไม่ซึมเข้าผ้าไม่ต้องตากแห้งสะบัดเสร็จพับเก็บได้เลย

แก้ไขแอร์ไม่เย็น

โบลเวอร์เป่าลม หรือ เครื่องเป่าลม มีทั้งแบบ มีสายเสียบปลั๊ก และ แบบ ใช้แบตเตอรี่  หรือที่เรียกกันว่า โบลเวอร์ไร้สาย หรือ โบลเวอร์แบตเตอรี่  ให้ความสะดวกที่แตกต่างกัน  เอาไว้สำหรับ ไล่น้ำทั้งตัวเครื่องปรับอากาศ ชิ้นงาน ส่วน แผงบอรด์  ใบพัดต่างๆ เป่าให้แห้งสนิท ไล่ความชื้นให้มากที่สุด หลังล้าง ก่อนประกอบเครื่องปรับอากาศกลับเข้าไป

แอร์ไม่เย็นเกิดจาก
โบลเวอร์แบต 4.0 Ah
  • 4.ชุดเกจ์วัดแรงดันน้ำยา

ชุดเกจ์วัดแรงดันน้ำยา  หรือ  เกจ์วัดน้ำยา  เอาไว้สำหรับตรวจสอบเช็คน้ำยา ทั้งก่อนล้างและหลังล้างเกจ์วัดน้ำยามีหลายแบบมากมาย ทั้งหัวเดี่ยวและหัวคู่    ด้านนึงเอาไว้วัดแรงดันด้านดูด หรือด้านต่ำ  เป็นสีน้ำเงิน  อีกด้านนึงเอาไว้วัดแรงดันด้านอัด  หรือด้านไฮ  เป็นสีแดง  เกจ์บางรุ่นจะมีหัวเดียวไว้วัดแรงดันด้านต่ำเท่านั้น   บางรุ่นมี สองหัว  มีแบบเข็ม และแบบตัวเลขดิจิตอล ราคาตั้งแต่ หลักร้อย ไปจนถึงหลัก หมื่น

แก้ไขแอร์ไม่เย็น

  • 5.คลิปแอมป์ วัดกระแสไฟฟ้า

คลิปแอมป์ วัดกระแสไฟฟ้า เป็นอุปกรณ์ที่สำคัญ  เอาไว้ตรวจสอบกระแสไฟฟ้า ของเครื่องปรับอากาศ ว่ามีกระแสไฟฟ้า ที่สูงหรือต่ำเกินไปหรือมั้ย  สามารถเทียบค่าที่เหมาะได้จาก ค่าที่โรงงานให้มา ส่วนใหญ่จะติดอยู่ข้างเครื่องตัวนอก หรือ outdoor unit

แอร์ไม่เย็นเกิดจาก
คลิปแอมป์ 15 โหมดในตัวเดียว FLOW
แก้ไขแอร์ไม่เย็น
คลิปแอมป์ 15 โหมดในตัวเดียว FLOW

เอาไว้สำหรับเติมน้ำยาผ่านทางเกจ์วัดน้ำยานั่นเอง  แต่สำคัญที่สุดนะครับ เราต้องรู้ว่าแอร์เครื่องที่เราจะเติมน้ำยานั้น ใช้น้ำยาอะไร ส่วนใหญ่ ที่เยอะที่สุดจะเป็น น้ำยาเบอร์​R22  รองลงมาก็จะเป็น R32  R410  แอร์รุ่นใหม่ๆ ตั้งแต่ ปี 2562  ก็จะไม่ผลิต น้ำยา R22 ออกมาจากโรงงานแล้วล่ะครับ  ฉะนั้น ควรสังเกตหรือสอบถามให้ดีก่อน ที่จะเติมน้ำยา หรือซื้อถังน้ำยามาเติมเข้าไปนะครับ ถ้าเติมน้ำยาผิด งานจะเข้าหนักได้เลยทีเดียวนะครับ ถึงขั้นคอมเพรสเซอร์พังได้เลย

แก้ไขแอร์ไม่เย็น
ถังน้ำยาแอร์​ ยี่ห้อ KATE COOL R-22 อุปกรณ์ล้างแอร์
  • 7.ไขควงเช็คไฟ หรือ เช็คแลมป์

สิ่งนี้ สำคัญและขาดไม่ได้เลย ไม่ว่าจะเป็นช่างมืออาชีพ หรือ มือสมัครเล่น   ช่วยให้ทุกคนปลอดภัยในชีวิตของเรา ชีวิตมีครั้งเดียวนะครับ ไม่ควรไปเสี่ยงกับอะไรที่อันตราย  ใช้ทุกครั้ง แม้ว่า จะปิดสวิทซ์ เบรกเกอร์ เมนไฟ แล้วก็ตาม เช็คแล้ว เช็คอีก ยิ่งเช็ค บ่อยยิ่งดี  แต่ต้องแน่ใจนะครับ ว่าไขควงเช็คไฟของคุณไม่เสียยังใช้งานได้ปรกติ  ควรทดสอบให้แน่ใจก่อนลงมือทำงานทุกครั้งนะครับ

แก้ไขแอร์ไม่เย็น

  • 8.ถังน้ำ บันได ไขควง ไฟฉาย ผ้าเช็ดแอร์ อุปกรณ์เครื่องมือช่างพื้นฐานทั่วไป

ส่วนใหญ่ก็จะเป็นของที่มีติดบ้าน กันอยู่แล้วเป็นปรกติ  เราก็นำมาใช้ได้ให้เหมาะกับงานของเราที่จะทำ ไม่จำเป็นต้องไปเสียเงินซื้อใหม่ ผมเชื่อว่าที่บ้านของใครหลายๆคน มี ไขควงหัวแฉก หัวแบน บันได  หรือ บางบ้านก็มีไขควงไฟฟ้า อยู่แล้วด้วยซ้ำนะครับ